เราสามารถนำรหัสบัตรเครดิตไปใช้ทำอะไรได้บ้าง
การมีบัตรเครดิตก็เหมือนกับเรามีเงินล่วงหน้าไว้ใช้จ่ายในสิ่งของหรือบริการที่คุณอยากได้ โดยไม่กระทบกับค่าใช้จ่ายปัจจุบันเนื่องจากการใช้บัตรเครดิตนั้นก็เหมือนกับการใช้เงินของเดือนถัดไปโดยธนาคารจะอนุมัติวงเงินสินเชื่อให้คุณพิจารณาจากฐานเงินเดือนหลัก ผู้ถือบัตรสามารถรูดบัตรเพื่อใช้จ่ายสิ่งต่างๆได้ตามประสงค์พอครบกำหนดชำระเงินคืนผู้ถือบัตรจะต้องนำเงินไปจ่ายทั้งส่วนของเงินต้นและดอกเบี้ย (ถ้ามี) การใช้บัตรเครดิตอาจไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของบัตรเสมอไปหากคุณมีรหัสบัตรเครดิตรวมถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ถือบัตรก็สามารถใช้บัตรนั้นๆจ่ายชำระค่าสินค้าและบริการได้เลย นั่นจึงเป็นที่มาของการหลอเครดิตกถามรหัสบัตรเครดิตจากเจ้าของตัวจริงสิ่งที่มิจฉาชีพพยายามสืบหาให้ได้มาเพื่อที่จะได้นำไปใช้สั่งจ่ายสิ่งของต่างๆที่พวกมันอยากได้
รหัสบัตรเครดิตประกอบไปด้วยหมายเลขบัตร 16 หลัก
(หน้าบัตร), Valid From (month/year), Good THRU (month/year), Name, ประเภทบัตร เช่น ธนาคารไร บัตรประเภทไหนและสุดท้ายคือหมายเลข 3 หลัก(CVV)ที่อยู่ด้านหลังบัตร รหัสบัตรเครดิตที่ถือได้ว่าเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดก็ว่าได้เพราะ“รหัส 3 หลักด้านหลังบัตร”เป็นเหมือนบัตรผ่านในการสั่งจ่ายด้วยบัครเครดิตนั้นๆ ซึ่งตามปกติแล้วการใช้จ่ายผ่านพนักงานจะสอบถามรหัสของบัตรที่อยู่ด้านหน้าและวันหมดอายุของบัตร ส่วนเลข 3 หลักนั้นเป็นข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าถ้าไม่จำเป็นอย่าให้เลข 3 นี้แก่ใครอย่างเด็ดขาด เวลาซื้อของถ้าต้องการจ่ายด้วยบัตรเครดิตก็ควรแน่ใจว่าร้านนั้นเชื่อถือได้และจะไม่แอบบันทึก“รหัสบัตรเครดิต”ทั้งด้านหน้าและด้านหลังไว้เมื่อเจ้าของบัตรเผลอ เพราะเคยมีกรณีพนักงานร้านแอบถ่ายรูปบัตรไว้จากนั้นก็เอารหัสที่ได้ไปทำธุรกรรมต่างๆ กว่าเจ้าของบัตรจะรู้ก็เกือบสายไปแล้วยังดีที่พนักงานธนาคารโทรมาแจ้งเตือนจึงระงับได้ทัน
บัตรเครดิตมีทั้งคุณและโทษเมื่อได้บัตรมาแล้วก็ต้องเก็บรักษาให้ดีไม่จำเป็นอย่าถือออกมาให้ใครเห็นเพราะไม่แน่ว่าคนที่อยู่ใกล้ตัวคุณอาจจะคิดไม่ซื่อทำทีเป็นหลอกขอดูบัตรแต่สุดท้ายก็เอารหัสบัตรเครดิตที่ได้ไปใช้ซะเอง เจ้าของบัตรจึงต้องระวังตัวและคอยเช็คยอดเงินของตัวเองทุกครั้งที่มีการสั่งจ่ายเสมอๆ