เช็คผลการสมัครบัตรเครดิต ผลอนุมัติบัตรเครดิตและผลอนุมัติสินเชื่อ

เมื่อคุณส่งเอกสารสมัครบัตรเครดิตหรือสินเชื่อไปแล้ว การตรวจสอบเช็คผลอนุมัติบัตรเครดิตและเช็คผลอนุมัติสินเชื่อ มีหลายช่องทางในการติดตามโดยคุณสามารถติดต่อไปยังธนาคารที่คุณยื่นใบสมัครไปได้โดยตรง หรือเช็คผลจากช่องทางอื่นโดยช่องทางติดต่อสอบถามผลการสมัครบัตรเครดิต ผลอนุมัติบัตรเครดิต และผลอนุมัติสินเชื่อ วิธีเช็คผลการสมัครบัตรเครดิต เช็คผลอนุมัติสินเชื่อ เช็คผลสมัครอนุมัติบัตรเครดิต

เพื่อความสะดวก ดังนี้

  1. โทรศัพท์สอบถามไปยังศูนย์บริการลูกค้า call center ของธนาคาร
  2. สอบถามจากสาขาธนาคารที่ทำการสมัครทำบัตรเครดิต /เจ้าหน้าที่เซลล์ที่รับสมัครทำบัตรเครดิต
  3. สอบถามข้อมูลจากเว็บไซต์สมัครทำบัตรเครดิตของธนาคาร
  4. สอบถามผ่าน mobile application ของธนาคาร (ถ้ามี)

เพื่อความสะดวกต่อการค้นหาของผู้ที่ต้องการเช็คผลการอนุมัติบัตรเครดิต และ เช็คผลการอนุมัติสินเชื่อ เราจึงรวบรวมข้อมูลคำถามพร้อมทั้งระบุหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อสอบถามได้ของแต่ละธนาคาร

ศึกษาผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตก่อนสมัครทำบัตรเครดิต

รายละเอียดข้อมูลผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตที่คุณต้องการสมัครทำบัตรเครดิต

ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตที่มีอยู่ในตลาดปัจจุบันมีหลายประเภทตามกลุ่มการใช้งานและผู้ออกบัตรเครดิตผู้ให้บริการซึ่งมีทั้งที่เป็นธนาคาร เช่น ธนาคารกสิกร  ธนาคารไทยพานิชย์  ธนาคารซิตี้แบงก์   ธนาคารกรุงศรี  ธนาคารธหารไทย เป็นต้น  หรือ ผู้ออกบัตรที่ไม่ใช่ธนาคาร เช่น  บริษัท บัตรกรุงไทย (บัตรเครดิตเคทีซี)  บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส  (บัตรเครดิตเฟิร์สช้อยส์) บริษัท ธนสินทรพย์ (บัตรเครดิตอิออน)  เป็นต้น  ดังนั้น คุณจึงมีสิทธิ์เป็นผู้เลือกสมัครบัตร  จึงควรเลือกสมัครทำบัตรเครดิตให้ตรงกับความต้องการของคุณที่สุด

การศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต

วัตถุประสงค์การสมัครทำบัตรเครดิตของตัวคุณ

ทราบความต้องการและวัตถุประสงค์การสมัครทำบัตรเครดิต

หลายคนสมัครทำบัตรเครดิตเพราะถูกเพื่อนชักชวน  ถูกเซลล์ติดต่อมาให้ช่วยสมัครทำบัตรเครดิต หรือสมัครบัตรเครดิตด้วยความเกรงใจ  และบางคนมีความสนใจต้องการมีบัตรเครดิตไว้ใช้งานจริงๆ    ในการสมัครทำบัตรเครดิต คุณจึงควรทราบวัตถุประสงค์ ความต้องการของตนเองให้ชัดว่า สมัครทำบัตรเครดิตไปเพื่ออะไร และเมื่อได้รับการอนุมัติบัตรเครดิตมาแล้ว จะใช้เป็นประโยชน์อย่างไรบ้าง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วบัตรเครดิตจะถูกใช้แทนการใช้จ่ายเงินสด ในรูปแบบต่างๆ ได้แก่

การใช้บัตรเครดิตเพื่อชำระค่าสินค้า และชำระค่าบริการแทนเงินสด

รูปแบบการชำระค่าสินค้าและค่าบริการกับร้านค้าทั่วไป ร้านค้าทางอินเตอร์เน็ตออนไลน์ (e-commerce)   รวมถึงการชำระค่าบริการโดยการตัดวงเงินบัตรเครดิตแบบอัตโนมัติเป็นงวดประจำ เช่น การชำระค่าไฟฟ้า รายเดือน  การชำระค่าประกันชีวิตรายเดือน  เป็นต้น

  • ธนาคารผู้ออกบัตรเครดิต จะกำหนดให้มีระยะเวลาเครดิตปลอดดอกเบี้ย

วิธีป้องกันกลโกงบัตรเครดิต บัตรเดบิต

วิธีป้องกันกลโกงบัตร ทั้งบัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรกดเงินสด และบัตรเอทีเอ็ม

1. รหัสผ่านของบัตรควร

  • เป็นรหัสผ่านที่ยากต่อการคาดเดา แต่เจ้าของบัตรต้องจำได้
  • ไม่จดรหัสผ่านไว้คู่กับบัตร หรือในที่ที่ผู้อื่นสามารถเข้าถึงได้
  • ไม่ใช้รหัสผ่านที่สถาบันการเงินส่งมาให้ และควรทำลายเอกสารแจ้งรหัสผ่าน
  • เปลี่ยนรหัสอย่างน้อยทุก 3 เดือนหรือบ่อยกว่า
  • เก็บรักษารหัสผ่านเป็นความลับ และไม่ควรให้ข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลทางการเงินแก่ผู้อื่น

2. ก่อนใช้งานตู้เอทีเอ็มควร

  • หลีกเลี่ยงการใช้ตู้เอทีเอ็มในสถานที่เปลี่ยว เพราะมีโอกาสที่มิจฉาชีพจะติดตั้งเครื่องคัดลอกข้อมูลไว้ได้โดยง่าย
  • สังเกตช่องเสียบบัตร แป้นกดตัวเลข หรือบริเวณตู้เอทีเอ็ม ว่ามีสิ่งผิดปกติ เช่น แป้นครอบตัวเลข กล่องหรืออุปกรณ์ที่ติดไว้ในระยะมองเห็นการกดรหัสหรือไม่20131109151037

3.